ธรรมที่อาศัยกัน

เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี เพราะการดับไปของสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป

คือ ธรรมที่อาศัยกัน

ไม่ได้หมายถึง เมื่อมีดินสอจึงมียางลบดินสอ เท่านั้น
แต่หมายถึง เมื่อมีดินสอเกิดขึ้น จึงมีการเรียกว่า ดินสอ เกิดขึ้นอีกด้วย

ธรรมที่อาศัยกันนี้ มีอยู่ทุกหนแห่งตั้งแต่ระดับจักรวาล จนไปถึงอนุภาคที่เล็กที่สุด รวมถึงในร่างกายของเรา

การจะเข้าใจธรรมที่อาศัยกันนี้ จึงทำได้โดยศึกษาจากจักรวาล, อนุภาค หรือส่ิงอื่นใดก็ได้ แต่เราจะเข้าใจสิ่งอื่นใด ได้ดีไปกว่า เข้าใจร่างกายของเรา

ดังนั้น การศึกษาร่างกายเราจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด หากเราพิจารณาร่างกาย จะพบว่าประกอบด้วย 2 สิ่ง คือ ส่ิงที่ควบคุมได้ เช่น การพูด การหยิบ การจับ และส่ิงที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การเต้นของหัวใจ การย่อยอาหาร

ซึ่ง บางส่ิงนั้น เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้ด้วย เช่น การหายใจ

เหตุนี้เอง การพิจารณาลมหายใจ ที่ผ่านเข้า ออก ร่างกายเรานั้น จึงเป็นจุดเร่ิมต้นที่ดีในการศึกษา ธรรมที่อาศัยกัน นั่นเอง

เมื่อ ศึกษาลมหายใจว่าเป็น ธรรมที่อาศัยกัน ก็จะเข้าใจว่า ลมหายใจมีลักษณะใด เกิดได้อย่างไร ดับเป็นอย่างไร และหนทางใดที่จะดับได้

เนื่องจาก ลมหายใจ และทุกสรรพสิ่ง มีธรรมที่อาศัยกันเป็นพื้นฐาน

ทุกข์ ก็มีธรรมที่อาศัยกันเป็นพื้นฐาน มีลักษณะ มีเหตุที่ทำให้เกิด มีการดับ และมีหนทางในการดับ

ซึ่งหนทางในการดับทุกข์นั้น ก็คือ “การละชั่ว ทำดี ทำจิตให้บริสุทธิ์”

หาก สุข เกิดได้จากการ มีทุกข์น้อย “การละชั่ว ทำดี ทำจิตให้บริสุทธิ๋”

ก็คือ หนทางที่จะมีความสุข ภายใต้ ธรรมที่อาศัยกัน นั้นเอง

#ความสุข#ทุกข์#วิสาขบูชา#ธรรมตรรกะ#ความสุขกับชีวิต

Author: DhammaTakka

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *